ค่าเสื่อมราคาคืออะไร? เผย 5 วิธีคิดค่าเสื่อมราคาง่ายๆเจ้าของธุรกิจก็ทำได้พร้อมไฟล์คำนวณ
มันคงจะแย่มาก หากว่าบริษัททำการซื้อตึกหรืออาคารมาในราคา 10 ล้านบาท แล้วบริษัทจะต้องมาบันทึกรับรู้เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในปีทั้งหมดด้วยยอด 10 ล้านบาททันทีในปีนั้น เพื่อลดปัญหานี้ทางสภาวิชาชีพบัญชีจึงได้เสนอทางออกให้กับเจ้าของธุรกิจ โดยทำการกระจายหรือปันส่วนค่าใช้จ่ายออกมา แล้วเฉลี่ยอย่างเป็นระบบตามอยู่การใช้งานของสินทรัพย์
ค่าเสื่อมราคา (Depreciation) คือ การปันส่วนค่าใช้จ่ายของสินทรัพย์ออกไปให้เท่า ๆ กันอย่างมีระบบตลอดอายุการให้ประโยชน์ของสินทรัพย์นั้น
การคำนวณค่าเสื่อมราคาจะถือเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในรอบบัญชีปัจจุบัน ทำให้ตัวเลขในงบการเงินของบริษัทมีความถูกต้อง น่าเชื่อถือ และยังเป็นเหมือนตัวช่วยในการตัดสินใจ เพราะ เจ้าของสามารถประเมินอายุคร่าว ๆ ของสินทรัพย์ได้ ว่าเครื่องจักร อุปกรณ์ที่มีอยู่นั้นกำลังจะเสียหรือว่าควรเปลี่ยนใหม่ตอนไหน นอกจากนี้ยังประเมินความคุ้มค่าก่อนทำการตัดสินใจในการซื้อได้ด้วย ว่าเหมาะที่จะลงทุนซื้อมาหรือเพียงแค่ทำการเช่าก็เพียงพอแล้ว อ่านหัวข้อเช่าหรือซื้อเพิ่มเติม คลิก
เน้นย้ำอีกครั้ง ค่าเสื่อมราคาไม่ใช่สิ่งที่ต้องควักเงินจริง ๆ ออกมาจ่ายแต่อย่างใด เป็นเพียงการกระจายค่าใช้จ่ายในทางบัญชีออกมาอย่างเป็นระบบ เพื่อให้งบการเงินมีความถูกต้องและสมเหตุสมผลมากขึ้น
ศึกษาเพิ่มเติม ตัวอย่างการคำนวณสามารถโหลดไปใช้ได้เลย
หากเข้าใจแล้ว สามารถกดไปที่หัวข้อที่สนใจได้เลย!
5 วิธีคิดค่าเสื่อมราคา พร้อมเช็ควิธีคิดที่เหมาะกับธุรกิจคุณ
1. วิธีเส้นตรง (Straight Line Method)
2. วิธียอดลดลงทวีคูณ (Double Declining Balance Method)
3. วิธีผลรวมจำนวนปี (Sum-of-the-year Method)
4. วิธีจำนวนผลผลิต (Unit of Production Method)
5. วิธีรายปี (Annuity Method)
1.วิธีเส้นตรง (Straight Line Method)
เป็นวิธีการคำนวณแบบตรงไปตรงมาและง่ายที่สุด เหมาะสำหรับสินทรัพย์ที่มีการใช้งานตามปกติ
วิธีการคำนวณค่าเสื่อมราคา วิธีเส้นตรง
ค่าเสื่อมราคา = (ราคาต้นทุน – มูลค่าซาก) / อายุการใช้งาน
อัตราค่าเสื่อมราคา = 100 / อายุการใช้งาน
ตัวอย่าง
อาคารมูลค่าที่ซื้อ 10 ล้านบาท และทำการต่อเติมอาคารจนใช้งานได้อีก 3 ล้านบาท ในอนาคตหากว่าไม่ใช้อาคารแล้วทำการขายออกไป คาดว่าจะสามารถขายได้ในราคา 1 ล้านบาท อาคารโดยปกติจะมีอายุการใข้งานอยู่ที่ 20 ปี
ดังนั้น
ค่าเสื่อมราคา = [ (10+3) – (1) ] / 20 = (13 – 1) / 20 = 12/20 = 0.6 ล้านบาท หรือ 6 แสนบาทต่อปีนั่นเอง
สรุป อาคารหลังนี้ หากคิดค่าเสื่อมราคาตามวิธีเส้นตรงจะต้องทยอยรับรู้ค่าเสื่อมราคาปีละ 6 แสนบาท
ปีที่ | มูลค่าตามบัญชี | อัตราค่าเสื่อมราคา | ค่าเสื่อมราคา | ค่าเสื่อมราคาสะสม |
---|---|---|---|---|
0 | 12,000,000 | 5% | 600,000 | 600,000 |
1 | 11,400,000 | 5% | 600,000 | 1,200,000 |
2 | 10,800,000 | 5% | 600,000 | 1,800,000 |
… | … | 5% | … | … |
20 | 0 | % | 0 | 12,000,000 |
2. วิธียอดลดลงทวีคูณ (Double Declining Balance Method)
เป็นวิธีการคำนวณโดยจะคิดค่าเสื่อมราคาด้วยมูลค่าที่เยอะในช่วงแรก แล้วจะทยอยค่อย ๆ ลดลงไปเรื่อย ๆ ในปีหลัง
วิธีการคำนวณค่าเสื่อมราคา วิธียอดลดลงทวีคูณ
ค่าเสื่อมราคา = อัตราค่าเสื่อมราคาแบบเส้นตรง X 2
ตัวอย่าง
อาคารมูลค่าที่ซื้อ 10 ล้านบาท และทำการต่อเติมอาคารจนใช้งานได้อีก 3 ล้านบาท ในอนาคตหากว่าไม่ใช้อาคารแล้วทำการขายออกไป คาดว่าจะสามารถขายได้ในราคา 1 ล้านบาท อาคารโดยปกติจะมีอายุการใข้งานอยู่ที่ 20 ปี (โจทย์เหมือน ข้อ 1 แต่เปลี่ยนวิธีการคำนวณ)
ดังนั้น
ค่าเสื่อมราคา = { [ (10+3) – (1) ] / 20 } x 2 = [ (13 – 1) / 20 ] x 2 = (12/20) x 2 = 1.2 ล้านบาทต่อปี
สรุป อาคารหลังนี้ หากคิดค่าเสื่อมราคาตามวิธีเส้นตรงจะต้องทยอยรับรู้ค่าเสื่อมราคาปีละ 1.2 ล้านบาท
ปีที่ | มูลค่าตามบัญชี | อัตราค่าเสื่อมราคา | ค่าเสื่อมราคา | ค่าเสื่อมราคาสะสม |
---|---|---|---|---|
0 | 12,000,000 | 10% | 1,200,000 | 600,000 |
1 | 10,800,000 | 10% | 1,200,000 | 1,200,000 |
2 | 9,600,000 | 10% | 1,200,000 | 1,800,000 |
… | … | 10% | … | … |
10 | 0 | 0% | 0 | 12,000,000 |
3. วิธีผลรวมจำนวนปี (Sum-of-the-year Method)
เป็นวิธีที่คิดค่าเสื่อมราคาด้วยมูลค่าที่เยอะในช่วงแรก แล้วจะทยอยค่อย ๆ ลดลงไปเรื่อย ๆ ในปีหลังอย่างเป็นสัดส่วน ซึ่งคล้ายกับวิธียอดลดลงทวีคูณ แต่มีความละเอียดมากกว่า
วิธีการคำนวณค่าเสื่อมราคา วิธีผลรวมจำนวนปี
วิธีคำนวณผลรวมจำนวนปี คือ n(n+1)/2 หรือ นำอายุการใช้งานของสินทรัพย์มาบวกกัน
ผลรวมจำนวนปี = n(n+1)/2 = 3(3+1)/2 = 6 หรือ 3 + 2 + 1 = 6 เช่นเดียวกัน
ค่าเสื่อมราคา = (ราคาต้นทุน – ราคาซาก) / (สัดส่วน/ผลรวมจำนวนปี)
ตัวอย่าง
เครื่องจักรราคา 1 ล้านบาท ราคาซาก 0.25 ล้านบาท อายุการใช้งาน 3 ปี
ดังนั้น
ค่าเสื่อมราคา = (1 – 0.25) x 50% = 3.75 แสนบาทต่อปี
สรุป อาคารหลังนี้ หากคิดค่าเสื่อมราคาตามวิธีเส้นตรงจะต้องทยอยรับรู้ค่าเสื่อมราคาปีละ 1.2 ล้านบาท
ปีที่ | มูลค่าตามบัญชี | อัตราค่าเสื่อมราคา | ค่าเสื่อมราคา | ค่าเสื่อมราคาสะสม |
---|---|---|---|---|
0 | 750,000 | 50.00% | 375,000 | 375,000 |
1 | 375,000 | 33.33% | 250,000 | 625,000 |
2 | 125,000 | 16.67% | 125,000 | 750,000 |
3 | 0 | 0% | 0 | 750,000 |
4. วิธีจำนวนผลผลิต (Unit of Production Method)
เป็นการคิดค่าเสื่อมตามความจริง กล่าวคือ ใช้มากเสื่อมมาก ใช้น้อยเสื่อมน้อยตามจำนวนกิจกรรม
วิธีการคำนวณค่าเสื่อมราคา วิธีจำนวนผลผลิต
ค่าเสื่อมราคา = (ราคาต้นทุน – ราคาซาก) / กิจกรรมการผลิต*
ตัวอย่าง
เครื่องจักรราคา 1 ล้านบาท ราคาซาก 0.25 ล้านบาท ชั่วโมงการผลิต 5 หมื่นบาท
โดยปีที่ 1-2 ใช้แรงงานไป 20,000 ชั่วโมง และในปีที่ 3 อีก 10,000 ชั่วโมง
ดังนั้น
ค่าเสื่อมราคา = (1 – 0.25) / 0.05 = 0.75 / 0.05 = 15 บาทต่อชั่วโมง
สรุป เครื่องจักรนี้ มีค่าเสื่อมราคาตามวิธีจำนวนผลผลิตในปีที่ 1 คือ 60,000 บาทต่อปี
ปีที่ | มูลค่าตามบัญชี | อัตราค่าเสื่อมราคา | ค่าเสื่อมราคา | ค่าเสื่อมราคาสะสม |
---|---|---|---|---|
0 | 750,000 | 40% | 300,000 | 300,000 |
1 | 450,000 | 40% | 300,000 | 600,000 |
2 | 150,000 | 20% | 150,000 | 750,000 |
3 | 0 | 0% | 0 | 750,000 |
*ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นชั่วโมงการผลิต ขึ้นอยู่กับว่ากิจกรรมนั้นคืออะไร สามารถเปลี่ยนแปลงได้อยู่เสมอ
5. วิธีรายปี (Annuity Method)
เป็นวิธีการคำนวณโดยจะคิดค่าเสื่อมราคาด้วยมูลค่าที่เยอะในช่วงแรก แล้วจะทยอยค่อย ๆ ลดลงไปเรื่อย ๆ ในปีหลัง แต่จะมีวิธีการคิดที่ละเอียดมากขึ้น โดยมองว่าเป็นเหมือนการลงทุนให้ได้ผลตอบแทน
วิธีการคำนวณค่าเสื่อมราคา วิธีรายปี
ตัวอย่าง
เครื่องจักรราคาทุน 5,000 บาท อายุการใช้งาน 3 ปี และมูลค่าคงเหลือ 500 บาท
ในสิ้นปีที่ 3 ต้นทุนของเงินลงทุนอยู่ที่ 10% ต่อปี
ดังนั้น
ค่าเสื่อมราคา = 6,655 – 3.31x = 500 ; x = 1,859 บาท
สรุป เครื่องจักรนี้ มีค่าเสื่อมราคาตามวิธีรายปีและดอกเบี้ยตามตาราง
ปีที่ | ค่าเสื่อมราคา | อัตราดอกเบี้ย x มูลค่าตามบัญชี | ค่าเสื่อมราคา - ดอกเบี้ย | มูลค่าตามบัญชี |
---|---|---|---|---|
0 | 5,000.00 | |||
1 | 1,859.52 | 500.00 | 1,359.52 | 3,640.48 |
2 | 1,859.52 | 364.05 | 1,495.47 | 2,145.02 |
3 | 1,859.52 | 214.50 | 1,645.02 | 500.00 |